โครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาล,ผิวดินเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน
สำหรับอุปโภคบริโภคในภาวะภัยแล้งอย่างยั่งยืน

หลักการและเหตุผล 
       เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค  ทำให้การใช้น้ำบาดาล,ผิวดินเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกหมู่บ้านต้องใช้น้ำอุปโภคบริโภค  โดยการใช้น้ำบาดาล,ผิวดินนั้น ต้องมีขั้นตอนการปรับปรุงคุณภาพน้ำขั้นต้น ก่อนนำน้ำมาใช้ด้วยวิธีขั้นตอนต่างๆ ทั้งจากการติดตั้งระบบกรองแบบเดิมที่มีใช้กันอยู่โดยทั่วไป  ซึ่งในบางครั้งไม่สามารถปรับปรุงคุณภาพน้ำให้ใสสะอาดเหมาะสมกับการนำน้ำไปอุปโภคบริโภคได้  จึงทำให้ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาปรับปรุงแก้ไข เราได้นำหลักวิชาการและเทคโนโลยีล่าสุดจากต่างประเทศที่ดีและเหมาะสมที่สุดมาออกแบระบบกรอง  โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพในการกรองน้ำให้ได้คุณภาพน้ำดีที่สุด ใช้พลังงานในกระบวนการกรองน้อยที่สุด ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาทั้งระยะสั้นระยะยาวให้ต่ำที่สุด ระบบกรองง่ายต่อการใช้งานและดูแลรักษา คุ้มค่าการลงทุน   ทำให้ผู้ใช้น้ำ ได้น้ำที่มีคุณภาพมาตรฐานน้ำอุปโภคที่เหมาะสม สำหรับอุปโภคภายในชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป 

วัตถุประสงค์ของโครงการ 
 1. เพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาล,ผิวดินให้ดีขึ้นกว่าเดิมเหมาะสมกับการอุปโภคบริโภคอย่าง ยั่งยืนทุกหลังคาเรือน 
 2. ลดปัญหาที่ต้นเหตุที่ทำให้ท่อเมนอุดตัน จากปัญหาสนิมเหล็กหรือหินปูนภายในท่อส่งน้ำ  ทำให้แก้ปัญหาระยะยาวได้  ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินท่อเมนใหม่ 
3. เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานในการปรับปรุงคุณภาพน้ำมีความสะดวก สบาย ประหยัด เวลา และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา 
4. เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีมีน้ำดื่มน้ำใช้ที่สะอาด ซึ่งน้ำเป็นปัจจัย พื้นฐานของการดำรงชีวิต   

ประโยชน์ที่ได้รับ 
 1. ประชาชนได้น้ำดื่มน้ำใช้ที่มีคุณภาพเหมาะสมกับการอุปโภคบริโภคอย่างยั่งยืน 
 2. ในระยะยาวประหยัดค่าใช้จ่าย  และบำรุงรักษาระบบประปา 
 3. ประชาชนมีน้ำดื่มน้ำใช้เพียงพอ  สามารถพึ่งพาตัวเองได้ 
 4. ทำให้หมู่บ้านน่าอยู่น่าอาศัยประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 
 5. ปัญหาการใช้น้ำบาดาลหมดไปอย่างถาวร 

ขั้นตอนการดำเนินการ 
 1. สำรวจหมู่บ้านที่มีปัญหาจากการใช้น้ำบาดาล 
 2. ออกแบบ ประมาณการราคาติดตั้งระบบกรองน้ำบาดาล 
 3. จัดทำงบประมาณ 
 4. ดำเนินการติดตั้งระบบกรองน้ำบาดาล   

ระยะเวลาการดำเนินการ 
ใช้เวลาในการดำเนินโครงการ 60 วัน











คุณลักษณะพิเศษของระบบกรองน้ำบาดาล,ผิวดิน CSS WaterTech    

1. ระบบกรองนี้ออกแบบตามหลักวิชาการผ่านการวิจัยและพัฒนาซึ่งมีใช้ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ทำให้กระบวนการกรองสามารถกำจัดสนิมเหล็ก แมงกานีส สี กลิ่น ความกระด้าง ในน้ำบาดาลหรือน้ำผิวดิน ให้ได้น้ำใสสะอาดเพื่อใช้อุปโภคบริโภค อย่างแท้จริง   

2. สารกรอง Cab G กลไก Alkalinity ฟรี ลดการใช้สารเคมี ปล่อยประจุจับไออนแคลเซียม,แมกนีเซียม,เหล็ก,แมงกานีสให้เป็นของแข็งและตกตะกอน (ปัญหาในน้ำบาดาล,น้ำผิวดิน) ที่มีประสิทธิภาพสูง ,ลดต้นทุนการผลิตน้ำสะอาด ,ลดการเกิดตะกรันจับเกาะผิวท่อเมนส่งน้ำอุดกั้นทางเดินของน้ำ,มีระบบเร่งตกตะกอนสารแขวนลอยในน้ำดิบ เพิ่มประสิทธิภาพในการกรอง รวดเร็ว และระบบฆ่าเชื้อโรค ประหยัดและปลอดภัย 

3. ทรายกรองชั้นกรองสามารถล้างด้วยน้ำและลม ทำให้ประสิทธิภาพการล้างตะกอนดีกว่าระบบเก่าที่ต้องใช้คนลงไปกวนหน้าทราย ซึ่งเปลืองน้ำและเสียเวลา   

4. มีระบบล้างกรองอัตโนมัติโดย Timer,ล้างกรองอัตโนมัติด้วยตัวเองเมื่อหน้ากรองตัน,ควบคุมการล้างด้วยคนดูแล ไม่ต้องกังวล เรื่องต้องใช้คนล้างกรองหรือลืมล้างกรอง อายุการเปลี่ยนกรวดทรายชั้นกรอง 15-20 ปี ลดค่าใช้จ่ายเปลี่ยนสารกรอง 20,000-50,000 บาทต่อปี   

5. ค่าเคมีสำหรับฉีดเข้าน้ำบาดาลประมาณ 300-1500 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับอัตราการใช้น้ำและปริมาณสารละลายที่อยู่ในน้ำบาดาล

6. ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน,อุปกรณ์ควบคุมน้อยสามารถหาซื้ออะไหล่ได้ในพื้นที่,ไม่ต้องใช้ความรู้สูงในการควบคุมระบบ,คุ้มค่าการลงทุน คืนทุนเร็ว,ประหยัดค่าไฟฟ้าในการสูบน้ำ 

7. มั่นใจด้วยนวัตกรรมระบบกรองล้างอัตโนมัติของ css watertech ซึ่งถูกคิดค้นผ่านประสบการณ์โดยนายจิณณ์ ก่อวุฒิพงศ์ด้วยระยะเวลากว่า 20 ปี และได้รับการพิจารณาผ่านแล้วจาก กรมทรัพย์สินทางปัญญา อนุสิทธิบัตร หมายเลข 18185









1. Cab G คืออะไร
       Cab G (Carbonate Generator)  ถูกตั้งชื่อ ตามหน้าที่ของสสาร ซึ่งชื่อหมายถึง ตัวต้นกำเนิดคาร์บอเนต ที่มีองค์บระกอบร่วมกันของแคลเซียม แมกนีเซียม  เหล็ก อลูมิน่า ซิลิกา คาร์บอนไดอ็อกไซด์ เมื่อ Cab G อยู่ในน้ำ จะแตกตัวให้ ประจุ 2+ และคาร์บอเนต ในน้ำ น้ำบาดาลหรือผิวดิน ที่มีสารละลายเหล็ก แมงกานีส แคลเซียม แมกนีเซียม ซึ่งอยู่ในรูป ไบคาร์บอเนต ก็จะถูกเปลี่ยนรูปไปเป็น คาร์บอเนตที่ไม่ละลายน้ำ เป็นของแข็ง ถ้าเป็นเหล็กก็จะเห็นตะกอนเป็นสีแดงส้ม ถ้าเป็น แคลเซียมแมกนีเซียมก็จะเป็นผงตะกอนสีขาว ความกระด้างที่เกิดจากแคลเซียม แมกนีเซียม ก็จะลดลง ค่าTDSก็จะลดลง 

2. Cab G ดีกว่าสารกรอง,เคมี ชนิดอื่นอย่างไร 
 
2.1   เป็นตัวเลือกที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบกรองน้ำง่ายต่อการบำบัด 
2.2   ลดต้นทุนในการผลิตน้ำ ประหยัดสารส้ม แพค 
2.3   เป็นสารที่มาจากธรรมชาติ ปลอดภัยสำหรับการใช้บำบัดน้ำ 
2.4   Cab G แบบก้อนสามารถใช้ได้ตลอดชีพ ไม่ต้องซื้อซ้ำ ใช้งานง่าย ราคาไม่แพง 
2.5   Cab G FeMn มีค่าความเป็นด่างมากกว่าโซดาแอส 2.5 เท่า ในการใช้ปริมาณที่เท่ากัน และไม่ทำให้ค่า TDS สุงขึ้นเหมือนการใช้โซดาแอส  ลดการทำงานของไส้กรองแมมเบรน   

3. Cab G ใช้ทำอะไรในระบบกรองน้ำ 

3.1   คาร์บอเนตที่ปล่อยออกจาก Cab G จะไปจับประจุ 2+ ได้แก่เหล็ก แมงกานีส แคลเซียม แมกนีเซียม ซึ่งอยู่ในรูปไบคาร์บอเนต ในน้ำบาดาล ผิวดิน ให้อยู่ในรูปของของแข็ง แล้วตกตะกอน ในถังพักน้ำดิบ หรือชั้นกรองของสารกรอง แล้วBackwash เอาตะกอนออก ช่วยประหยัดการใช้เรซิน เกลือล้างกรอง สารกรอง 
3.2   ประจุแคลเซียมปล่อยออกจาก Cab G จะไปจับกลับก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ในน้ำ ลดความเป็นกรดเพิ่มค่าPhสูงขึ้น ลดและป้องกันวงจรการเกิดพืชน้ำเช่นแพงค์ตอน ส่าหร่าย 

4. Cab G มี 3 ประเภท 

แบบที่ 1 แบบก้อน Cab G 142 ขนาด1-1/4 สำหรับใส่ในถังกรองและถังพักน้ำดิบ


แบบที่ 2 แบบผง Cab G FeMn สำหรับลดกำจัดสนิมเหล็กแมงกานีสในน้ำบาดาลผิวดิน ผสมในท่อน้ำดิบก่อนเข้าถังพัก



แบบที่ 3 แบบผง Cab G CaMg สำหรับลดกำจัดหินปูนแคลเซียม แมกนีเซียม ในน้ำบาดาลผิวดินผสมในท่อน้ำดิบก่อนเข้าถังพัก





ประปาเทศบาลตำบลตลิ่งชัน ม.8 จ.สุโขทัย


ประปาเทศบาลตำบลตลิ่งชัน ม.7 หนองบัวดำ จ.สุโขทัย


ประปาเทศบาลตำบลตลิ่งชัน ม.6 หนองเตาปูน จ.สุโขทัย

โรงพยาบาลนาแห้ว จังหวัดเลย


อบต.บ้านกร่าง จังหวัดพิษณุโลก



โรงเรียนพิษณุโลกปัญญานุกูล


หรือโทร 081-7851077

 ​         

csswatertech.com © 2017-2025 All rights reserved.

 
เว็บสำเร็จรูป
×